วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ศาลหลักเมืองอุดรธานี

 ศาลาหลักเมืองอุดรธานี และสักการะท้าวเวสสุวรรณ จ.อุดรธานี


ศาลาหลักเมืองอุดรธานี  หรือที่เรียกว่าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองอุดรธานี  เป็นศูนย์รวมความเคารพและความศรัทธา ซึ่งชาวเมืองอุดรธานีมักจะพากันมาสักการบูชา  ในบริเวณศาลหลักเมืองอุดรธานี   ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญอื่นๆ อันเป็นที่เลื่อมใสบูชาเป็นอย่างสูงได้แก่   หลวงพ่อพระพุทธโพธิ์ทอง  และท้าวเวสสุวัณ  ซึ่งมีความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์และความเป็นสิริมงคลในแต่ละด้านที่แตกต่างกันไป


ตามประวัติกล่าวว่า  ศาลหลักเมืองอุดรธานีนั้นสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2502  โดยอัญเชิญดวงพระวิญญาณของ พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ  กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม  ผู้ทรงก่อตั้งเมืองอุดรธานีขึ้นเมือ พ.ศ.2436  มาสถิต  ณ  เสาหลักเมืองนี้ด้วย  องค์เสาหลักเมืองทำขึ้นด้วยไม้คูณยาว  5  เมตรเศษ  และฝังลึกลงไป 3 เมตร  มีการบรรจุแผ่นยันต์และแก้วแหวน  เงิน  ทองต่างๆเป็นจำนวนมากไว้ใต้ฐานเพื่อเป็นสิริมงคล  ต่อมาในปี พ.ศ.2542  ได้มีการสร้างศาลหลักเมืองหลังใหม่แทนหลังเดิมที่ทรุดโทรมไป  ตัวอาคารของศาลหลักเมืองจะเป็นสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ ผสมผสานศิลปะแห่งภาคอีสาน  ให้เป็นที่สักการะขอพรของชาวอุดรธานีสืบมา

นอกจากนี้บริเวณศาลหลักเมืองยังมีรูปปั้นท้าวเวสสุวัณ 1 ใน 4  ของท้าวจตุโลกบาลผู้ปกครองเหล่าอสูร  และยักษ์  ตลอดจนภูตผีปีศาจทั้งหลายอันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองอุดร  ที่ได้เชิญมาประดิษฐานไว้หลังการสร้างศาลหลักเมืองหลังใหม่  ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่ามาสักการะศาลหลักเมืองอุดรธานีนั้นสามารถบูชาและกราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 3 ได้ในหนเดียว

ศาลหลักเมืองอุดรธานี ตั้งอยู่บริเวณทุ่งศรีเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ถือเป็นสถานที่สำคัญในการดำรงและสืบสันติสุขของประชาราษฎร์จังหวัดอุดรธานี ศาลหลักเมืองเดิมได้รับความร่วมมือจากข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนในสมัย นายจินต์ รักการดี เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ทำการวางศิลาฤกษ์เมื่อวันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2502 ที่ผ่านมาศาลหลักเมืองเดิมได้มีสภาพชำรุดทรุดโทรม จึงมีการปรับปรุงสร้างศาลาหลังใหม่ แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2539 โดยในขณะนั้น นายวิชัย ทัศนเศรษฐ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีได้อัญเชิญท้าวเวสสุวรรณ อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองอุดรธานีมาประดิษฐานเคียงคู่กับอาสน์ศาลหลักเมืองใหม่พร้อมกันอีกโสตหนึ่งด้วย


นอกจากนี้โครงการสร้างศาลหลักเมือประจำจังหวัดอุดรธานียังเป็นโครงการที่รัฐบาลให้เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติโครงการหนึ่ง ในวาระสมัยอันเป็นมงคลที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงเจริญพระชนมายุ 72 พรรษา ในปีพุทธศักราช 2552 และนับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สมเด็จพระบรมโอราสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์มาทรงเปิดศาลหลักเมืองประจำจังหวัดอุดรธานีในวันศุกร์ที่ 29 มกราคม 2552

สถานที่ตั้ง
บริเวณทุ่งศรีเมือง  อ.เมือง จ.อุดรธานี

ความเชื่อและวิธีการบูชา
มีผู้นิยมมาสักการะศาลหลักเมืองเพื่อขอพรให้ชีวิตมั่นคง  ราบรื่นทั้งการงานและการเงิน โดยมีเคล็ดความเชื่อว่าหากเข้าประตูใดให้ออกประตูนั้น จะทำให้ได้อานิสงส์มากยิ่งขึ้น  ส่วนการสักการะพระพุทธโพธิ์ทองนั้นเชื่อว่าจะทำให้มีร่มโพธิ์ร่มไทร  มีผู้ใหญ่สนับสนุน  ค้ำจุน  โดยผู้ที่มาสักการะมักเก็บใบโพธิ์ที่หล่นอยู่หลังคาไปบูชาเพื่อเป็นมงคลด้วย  และการบูชารูปปั้นของท้าวเวสสุวัณนั้นถือว่าคือการขอพรให้ศัตรูหมู่มารหรือผู้มาคิดร้ายให้แพ้ภัยตัวเอง  หรือกลับใจมาเป็นมิตร

เทศกาลงานประเพณี
มีพิธีบวงสรวงสักการะในวาระสำคัญของเมืองทุกครั้ง   เช่นในเทศกาลสงกรานต์  เทศกาลปีใหม่  หรืองานประจำปีทุ่งศรีเมือง (ประมาณวันที่  1-15 ธันวาคม ของทุกปี)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น